วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ไร่บุญรอด สิงห์ปารค์ เชียงราย

   สวัสดีค่ะอีกที่ๆจะพาไปแนะนำ สำหรับที่เที่ยวใกล้ชิดกับธรรมชาติบรรยายกาศดีๆเหมาะสำหรับการไปเที่ยวกับครอลครัว หรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆนะคะ เพราะที่แห่งนี้มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะเลยค่ะ ที่นี่ก็คือ ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค เชียงรายนั้นเองค่ะ

   เครดิตภาพhttp://pantip.com/topic/30885470
ไร่บุญรอด หรือสิงห์ปาร์ค เชียงราย เป็นไร่ของบริษัท บุญรอด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์ เส้นทางเดียวกับวัดร่องขุน อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงาม ภายในไร่บุญรอดมีการจัดแต่งสวนดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยงามนานาชนิด มีพื้นที่ เกษตรกรรมและไร่ชากว่า 600 ไร่ โดยจัดเป็นรูปแบบฟาร์มทัวร์ให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชม ไร่บุญรอด ปลูกพืชหลายชนิด ตามความเหมาะสมกับสภาพดิน มีชาพันธุ์อู่หลง รวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน และกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส


กิจกรรม(นั่งรถรางพาชมไร่บุญรอด)
กิจกรรมที่มีตลอดทุกวัน ทั้งปี ไม่เว้นวันหยุด ลงทะเบียนวันต่อวัน คิดค่าบริการ 50 บาท (ยกเว้นเด็กที่ส่วนสูงไม่เกิน 110 ซม.) พร้อมเริ่มระบบ Shuttle Bus ในการนำเที่ยวโดยนักท่องเที่ยวจะได้รับบัตรผ่าน พร้อมคูปองแลกน้ำดื่มตราสิงห์และเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว อย่างละ 1 ใบ เริ่มตั้งแต่ 8.00 น. การเดินรถจะมี 2 แบบแล้วแต่วันที่เข้าชม
  • แบบที่ 1 วันจันทร์ – ศุกร์ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์                                                                   ให้บริการแบบรถทัวร์ทัศนาจร (ขึ้นรถคันไหนไปกับรถคันนั้นตลอด แวะจอดตามจุดต่างๆ ก็กลับมาขึ้นรถคันเดิม)                                                                                                                      -เวลาเดินรถ 8.30 – 16.00 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง/รอบ
  • แบบที่ 2 วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์                                                                 ให้บริการแบบ Shuttle Bus (เหมือนรถเมล์ หรือ รถรางงานพืชสวนโลก จ.เชียงใหม่ คือให้เราแวะลงตามจุดจอดกลางทาง เมื่อเราชมจนพอใจก็รอขึ้นรถบัสคันถัดๆ ไป)                                       -เวลาเดินรถ 8.15 – 16.15 น. รถออกทุก 15 นาที จนถึงเวลา 16.15 น.                                       -หลัง 16.15 น. จะนำรถเปล่าเข้าไปรับนักท่องเที่ยวที่ยังอยู่ภายในไร่เพื่อกลับออกมาเท่านั้น    
  • จุดแวะที่ 1 ฟักทองยักษ์ (เฉพาะรถราง) : ถ้ามาช่วงหน้าหนาวจะมีเนินทุ่งดอกคอสมอสสวยๆ ให้    ถ่ายรูป พร้อมรถม้าเก่าๆ และฟักทองยักษ์                                                                              
  • จุดแวะที่ 2 คอกยีราฟ ม้าลาย (เฉพาะรถราง) : แวะให้อาหารยีราฟ ม้าลาย ได้ที่จุดนี้
  • จุดแวะที่ 3 ศูนย์กีฬาและสันทนาการ หรือ บ้านแดง : มีบริการเช่าจักรยาน และลงทะเบียนเพื่อโรยตัวโหนไร่ชา หรือที่เรียกว่า Zip Line
  • จุดแวะที่ 4 ร้านอาหารภูภิรมย์ : ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยจุดหนึ่งในไร่ และยังสามารถเดินไปชมจุดชมวิวไร่ชา 360 องศา มีมุมบ่อน้ำ 100 ไร่ สวยๆ เป็นฉากหลัง                                                     *หมายเหตุ จุดที่ 1, 2 สงวนเฉพาะรถรางเท่านั้น ส่วนจุดที่ 3, 4 สามารถนำรถยนต์เข้าได้ ตามเส้นทางสีน้ำเงินในแผนที่ด้านล่าง
เครดิตภาพhttps://www.google.co.th
จุดที่ 1 ทุ่งดอกคอสมอส
ตรงเนินด้านหลังที่เพิ่งถูกไถกลบเป็นดินโล่งเตียนนั้นก่อนหน้านี้จะมีทุ่งดอกคอสมอส เลยไม่ทันได้ชมความงามในจุดนี้กันอย่างเต็มที่ จุดนี้จะมีรถม้าเก่าคลาสสิคและฟักทองแฟนซียักษ์ให้ถ่ายรูปได้หลายมุม จุดนี้ให้พักถ่ายรูปได้ 10 นาที


เครดิตภาพhttp://pantip.com/topic/30578741


เครดิตภาพhttps://www.google.co.th


เครดิตภาพhttps://www.google.co.th


เครดิตภาพhttps://www.google.co.th

จุดที่ 2 ให้อาหารยีราฟ ม้าลาย

เครดิตภาพ https://www.google.co.th


เครดิตภาพhttps://www.google.co.th

 
เครดิตภาพhttps://www.google.co.th

จุดที่ 3 ร้านกาแฟ บ้านแดง
โซนนี้จะมีให้เช่าจักรยาน ลงทะเบียนเพื่อโรยตัวโหนไร่ชา (Zip Line) และยังเคยเป็นที่จัดงาน Farm Festival ช่วงปลาย พฤศจิกายนของทุกๆ ปีอีกด้วย

เครดิตภาพhttps://www.google.co.th/

อัตราค่าบริการเช่าจักรยานและแผนที่

-ค่าเช่าจักรยาน 2 ที่นั่ง
1 ชั่วโมง 150 บาท2 ชั่วโมง 200 บาท
6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 400 บาท
-ค่าเช่าจักรยานเสือภูเขา
1 ชั่วโมง 100 บาท3 ชั่วโมง หรือ 1/2 วัน 250 บาท
6 ชั่วโมง หรือ 1 วัน 400 บาท

เครดิตภาพ https://www.google.co.th

เครดิตภาพ เครดิตภาพhttps://www.google.co.th/

 จุดที่ 4 จุดชมวิวไร่ชา 360 และร้านอาหารภูภิรมย์
บริเวณจุดชมวิวไร่ชา 360 องศา จะเป็นระเบียงยื่นเข้าไปในไร่ชาขั้นบันได เห็นวิวไร่ชาพานอรามา 360 องศารอบทิศทาง นอกจากนี้ รอบๆ จุดชมวิวยังปลูกต้นเหลืองเชียงราย ซึ่งตอนที่ไปยังไม่บานเต็มที่ ถ้าได้มาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดอกจะสีเหลืองสวยงามมาก

เครดิตภาพhttps://www.google.co.th


เครดิตภาพhttps://www.google.co.th

เครดิตภาพhttps://www.google.co.th


แผนที่และวิธีการเดินทาง

ไร่บุญรอดตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมืองเชียงราย ห่างจากอำเภอเมืองไม่ไกลนัก และอยู่ไม่ไกลจากวัดร่องขุ่น แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของ จ.เชียงรายในปัจจุบัน ดูตำแหน่งจากแผนที่ด้านล่าง
การเดินทางจาก อ.เมืองเชียงราย ถ้ามาจากแม่สาย-แม่จัน หรือ สนามบินแม่ฟ้าหลวง ให้มาทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ (ถนนพหลโยธิน หรือ ทางหลวงหลายเลข 1) จากนั้นให้สังเกตุสามแยกวัดร่องขุ่น ให้เลี้ยวขวาเข้ามาตรงไปอีก 5 กม. จะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมาอีก 2 กม. จะเห็นสิงห์ปาร์คอยู่ทางซ้ายมือ (หน้าทางเข้าจะมีรูปปั้นสิงห์สีทองอร่าม ยืนเด่นเป็นสง่า รับรองไม่ขับรถเลยแน่ๆ จ้า)


เครดิตภาพhttps://www.google.co.th

ปฏิทินกิจกรรมและดอกไม้บานช่วงฤดูหนาว ในช่วงฤดูหนาว ไร่บุญรอดยังมีกิจกรรมเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ดังนี้
กิจกรรมเก็บผลไม้สดๆ จากไร่
-เดือนมกราคม พุทราซื่อหมี่พันธุ์ดีจากไต้หวันที่ตัดต่อกิ่งจากต้นพันธุ์พื้นเมืองเพื่อให้ทนต่อโรคและแมลง (ตะกร้าละ 100 บาท)
-เดือนกุมภาพันธ์ สตรอเบอร์รี่พันธุ์ 80 พันธุ์เดียวกับอ่างขาง
ชมดอกไม้สวยๆ
-เดือนปลายพฤศจิกายน – ต้นเดือนมกราคม ทุ่งดอกคอสมอส (ดาวกระจายสีชมพู) ปอเทืองสีเหลือง
ปลายเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ต้นเหลืองเชียงราย (ลองจินตนาการว่าเอาดอกชมพูพันธุ์ทิพย์เปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีเหลืองสดๆ น่ะใช่เลย

อ้างอิง:http://pantip.com/topic/30885470
https://www.youtube.com/watch?v=3bab6UwUio0
https://www.google.co.th
http://pantip.com/topic/30578741
https://www.google.co.th
http://www.paiduaykan.com/province/north/chiangrai/boonrawdfarm.html
https://2baht.com/singha-park-chiang-rai/



เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ขุนช่างเคี่ยน(เชียงใหม่)

สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆทุกคนไปเที่ยวกันนะคะ ที่ๆจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักวันนี้ก็ คือ ขุนช่างเคี่ยนนั้นเองค่ะ เราจะพาเพื่อนๆไปดูความสวยงามของต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่ขุนช่างเคี่ยนนะคะ^^


วีดีโอขุนช่างเคี่ยน^^



ขุนช่างเคี่ยน  

ขุนช่างเคี่ยนหรือสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใน เส้นทางเดียวกับ พระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิวเศน์ และบ้านม้งดอยปุย สถานีเกษตรที่สูง ขุนช่างเคี่ยนเป็น 1 สถานี เกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับ เมล็ด พันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว เช่น ท้อ พลับ บ๊วย พลัม อะโวกาโด มะคาเดเมีย และไม้ผลกึ่งร้อน ได้แก่ ลิ้นจี่ และในทุกๆปีของหน้าหนาวช่วงปลายธ.ค-ม.ค. แต่ในเนื่องจากสภาพอากาศ เริ่มแปรปรวนไป ก่อนเดินทางต้องโทรสอบถามไปอีกครั้ง ว่าบานแล้วหรือยัง ต้นนางพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทย สีชมพู สดจะบานสะพรั่งอวดความงามไปทั่วบริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึก อบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หมู่บ้านชาวม้ง บ้าน ขุนช่างเคี่ยนเต็มไปด้วยสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มาก ทั้งตามข้างทางถึงในหมู่บ้าน
ต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่ขุนช่างเคี่ยนนั้นมีลักษณะเป็นดงอยู่รวมกันสีของซากุระนั้นบานเป็นสีชมพูสดใส แถมบางช่วงยังบาน แทรกตัวอยู่ในบ้านพัก ดูแล้วมีชีวิตชีวาน่ายลยิ่งนัก ขุนช่างเคี่ยนถือเป็นแหล่งชมดอกพญาเสือโคร่ง ที่อยู่ใกล้ เมืองเชียงใหม่มากที่สุดซึ่งใน แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นทุกปีเพราะดงดอกซากุระดอยที่ขุนช่างเคี่ยนมีความสวยงามไม่แพ้ใคร
ทำความรู้กจักกับดอกพญาเสือโคร่ง


นางพญาเสือโคร่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Prunus cerasoides , อังกฤษ : Wild Himalayan Cherry) เป็นพืชดอกในสกุล Prunus ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ภูลมโล จังหวัดเลย, ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย, ดอยเวียงแหง ขุนช่างเคี่ยน ขุนแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่, ขุนสถาน ดอยวาว ดอยภูคา และมณีพฤกษ์ จังหวัดน่าน โดยเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศไทย ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และถูกนิยมเรียกว่า "ซากุระเมืองไทย" เพราะมีลักษณะคล้ายซากุระ แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม  ผลของนางพญาเสือโคร่งสามารถนำมารับประทานได้ มีรสเปรี้ยว ส่วนเนื้อไม้และการใช้ประโยชน์ด้านอื่นยังไม่มีการบันทึกข้อมูลไว้ นอกจากการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกสวยงาม

ที่พักขุนช่างเคี่ยน  



บ้านพักทรงเอเฟรมไว้ทั้งสิ้น 3 หลัง สามารถพักอาศัยได้เป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่เกิน 15 คน ภายในเป็นห้องกว้างสำหรับ พักรวม มี 2 ชั้น ชั้นบนสามารถจุคนได้ประมาณ 4-6 คน ส่วนชั้นล่างจุได้ประมาณ 8-12 คน มีที่นอน หมอนและ ผ้าห่ม ห้องน้ำ-สุขา อยู่ภายใน มีห้องครัว สำหรับจัดเตรียม อาหารขนาดเล็ก พร้อมเตาแก๊ส และ อุปกรณ์หุงต้ม ที่จำเป็น ในฤดูหนาว สามารถจุดเตาผิงภายใน เพื่อสร้างความ อบอุ่นได้ ในระหว่างพักอาศัย ผู้พัก อาศัยสามารถ ชมทัศนียภาพโดยรอบสถานี และมีบริเวณโดยรอบระเบียงสำหรับสังสรรค์ได้ตามสมควร
-อัตราค่าบำรุงสถานที่
นักศึกษา (คนละ) 30 บาท
บุคคลทั่วไป 60 บาท
หมู่คณะ 600 บาท
*ผู้สนใจสามารถติดต่อที่พักและชำระเงินได้ที่ โทร. 053-944053 หรือ 053-222014 ก่อนวันเข้าพักอาศัย (ในวันและเวลาราชการ) เบอร์โทร สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน คุณศรีนวล 086-183716
การเดินทาง  
เครดิตภาพ:http://www.chillpainai.com/scoop/554/

ใช้เส้นทางเดียวกันกับวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ผ่านวัดตรงเข้ามาตามเส้นทางพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศ จากนั้นมีแยกเลี้ยวขาวไปหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน ผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและลานกางเต็นท์ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร มีทางเข้าสถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนอยู่ขวามือ ระหว่างทางมีดอกพญาเสือโคร่งให้ชมเป็นระยะๆ เส้นทางแคบและคดเคี้ยวตลอดช่วงการเดินทาง ให้บีบแตรตรงทางโค้งและระวังรถสวนทาง
1. มอเตอร์ไซค์ เป็นทางอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ขับมอเตอร์ไซค์คล่องแคล่วเพราะทางค่อยข้างเล็ก มอเตอร์ไซค์จึงเป็นทางเลือกต้นๆ สำหรับเช่ามอเตอร์ไซค์รายวันประมาณวันละ 100 บาท
2. รถยนต์ส่วนตัว แนะนำว่าคนขับจะต้องชำนาญทางเพราะทางค่อยข้างคตเขียวและรถสวนทางกันยาก
3. เหมารถแดง (รถโดยสารประจำเชียงใหม่) เป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่มคณะ ราคาเหมาจะอยู่ที่ 1500 – 2000 บาท นั่งได้ประมาณ 10 ต่อ 1 คัน












               เครดิตภาพhttp://www.thaidphoto.com/forums/showthread.php?t=248692

อ้างอิง:http://www.paiduaykan.com/76_province/north/chiangmai/khunchangkain.html 
เขียนโดย ที่ ไม่มีความคิดเห็น:
สมัครสมาชิก: บทความ (Atom)